จากแรงบันดาลใจที่มีให้กับวรรณคดีไทยเรื่อง ’ขุนช้างขุนแผน’ ตัวละครหลักอย่าง’นางวันทอง’ ซึ่งไม่สามารถเลือกได้ระหว่างชายรักแรกพบกับชายผู้ดูแลเธอเป็นอย่างดี ถ่ายทอดเป็นร้านขนมแสนเก๋ที่ผสมผสานความรักในรสชาติของขนมไทยกันอย่างลงตัว
จากแรงบันดาลใจที่มีให้กับวรรณคดีไทยเรื่อง ’ขุนช้างขุนแผน’ ตัวละครหลักอย่าง’นางวันทอง’ ซึ่งไม่สามารถเลือกได้ระหว่างชายรักแรกพบกับชายผู้ดูแลเธอเป็นอย่างดี เจ้าของร้านหนุ่มอารมณ์ดีจึงนำไอเดียนี้มาถ่ายทอดเป็นร้านขนมแสนเก๋ที่ผสมผสานความรักในรสชาติของขนมไทยและเทคนิคการสร้างสรรค์ในศาสตร์เบเกอรี่ลงไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนเกิดเป็นเอกลักษณ์แห่งรสชาติความหวานละมุนสไตล์‘วันทองคาเฟ่’
คุณหนึ่ง กิตติศักดิ์ กิจรุ่งโรจน์ เจ้าของร้านอารมณ์ดีเล่าให้เราฟังว่า “ผมเป็นอินทีเรียดีไซน์เนอร์ แต่ทางบ้านทำธุรกิจขนมอยู่แล้ว จึงมีความคิดอยากจะเปิดร้านเป็นของตัวเอง ซึ่งผมเริ่มต้นจากการให้เพื่อนๆชาวต่างชาติลิ้มลองรสชาติขนมไทยชนิดต่างๆ และทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า ขนมไทยมีความน่าตื่นเต้นมาก แต่รสชาติเหมือนกันทุกชิ้นเลย” ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณหนึ่งมีความคิดในการนำขนมไทยและขนมฝรั่งมารวมอยู่ในชิ้นเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอีกด้วย
การตกแต่งของทางร้านเป็นใส่ความเป็นตะวันตกแต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นไทย ซึ่งแฝงไว้ตามถ้วยจาน ของตกแต่ง อีกทั้งลักษณะของตลาดจตุจักรส่วนใหญ่จะเป็นร้านมืดๆ แต่ตัวร้านวันทองมีจุดเด่นคือเป็นร้านที่เปิดหลังคาโล่ง แสงแดดเข้ามาถึง จึงมีส่วนทำให้บรรยากาศของร้านมีชีวิตชีวา โดดเด่นกว่าร้านใกล้เคียง และต้นไม้สีเขียวที่ร้านประดับไว้เพิ่มโอโซนให้คนที่เข้ามารู้สึกสดชื่นอีกด้วย
ด้านเมนูขนมซิกเนเจอร์ที่ทางร้านแนะนำให้มาลองคือ Nilla (Riceberry Short Cake) ที่แปลว่าสีนิลหรือสีดำ สปองจ์เค้กที่ผสมผสานเนื้อมะพร้าวอ่อนและเนื้อของข้าวไรซ์เบอร์รี่ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวเหนียวถั่วดำ ทานแล้วให้รสสัมผัสนุ่มเบาและหวานหอมจากน้ำมะพร้าวสุดๆ
ถัดมาเป็น Kaya (Pandan Custard Tart) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากขนมปังสังขยารวมร่างเข้ากับทาร์ต ประกอบด้วยคัสตาร์ทสังขยา ขนมปังโฮลวีท เมอแรงก์และฝอยทองมาเอาใจคนรักความหวานอย่างเต็มเหนี่ยว
และปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่มีชื่อตามตัวละครในเรื่องขุนช้างขุนแผน อย่าง Pimpilalai (Thai Herb with Soda ) ชื่อเดิมของนางวันทอง เป็นน้ำสมุนไพรที่มีส่วนผสมของขิง ข่า ตะไคร้ ที่สกัดเอาแต่กลิ่นบางๆ มาผสมกับโซดา ช่วยให้วันเหนื่อยๆ ของคุณสดชื่นขึ้น และหากใครที่ไม่ค่อยชอบโซดา San Tri Petch (Iced Watermelon Earl’s grey Tea) เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะเลือกใช้ชาเอิร์ลเกรย์ผสมกับน้ำแตงโมมาช่วยตัดความเลี่ยนของขนมหวานอย่างลงตัวที่สุด หากได้มาลองแล้วคุณอาจจะกลายเป็นคนสองใจที่อยากจะหลงรูปจูบรสความอร่อยอย่างยากจะถอนตัว
สถานที่ : Wantong Café ตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 26 ซอย ¼
โทร. 088-885-7751
FB : wantongcafe
กลุ่มหนุ่มสาว ที่บอกเล่าเรื่องราว ร้านอร่อยหรูทั่วไทย จากฝีมือเชฟระดับโลก และเจ้าของร้านอาหารชั้นนำ