หลังจากที่ Rabbit Hole โปรยเสน่ห์ด้านค็อกเทลให้กับค็อกเทลเลิฟเวอร์ทั่วเมืองกันไปเมื่อปีที่ผ่านมา ปีนี้จึงไม่รั้งรอที่จะเนรมิตโปรเจ็กต์ใหม่มาให้ตื่นตาตื่นใจบนย่านทองหล่ออีกครั้งกับ Canvas ไฟน์ไดนิ่งสุดเท่เจ้าของนิยาม Contemporary Bangkok Cuisine
ด้วยบรรยากาศคลาสสิกร่วมสมัยแบบตะวันตกของการตกแต่ง ทำให้หลายคนรู้สึกถึงความสุขุม นุ่มนวล สงบ และน่าค้นหาในทันทีที่ก้าวสู่ตัวร้าน ผสานความโดดเด่นของครัวเปิดเรียบหรูที่ทอดตัวยาวลึกเข้าไปเกือบตลอดตัวร้านราวกับเป็นเวทีการแสดงที่ทีมเชฟมืออาชีพใช้วาดลวดลายการปรุงให้แขกคนพิเศษได้ชมกันแบบใกล้ชิด ซึ่งลูกค้าสามารถจับจองที่นั่งได้ตามอัธยาศัยทั้งเคาน์เตอร์บาร์ที่หันหน้าล้อมครัวเปิด หรือนั่งสบายๆ ที่โต๊ะไม้ตัวสวยรอบๆ บริเวณชั้น 1 ส่วนชั้น 2 นั้นเป็นอีกโซนที่รอต้อนรับลูกค้าที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวและเป็นเป็นที่ ตั้งของค็อกเทลบาร์ขนาดกะทัดรัดเจือเสน่ห์ของบาร์ยุคก่อนเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยได้คุณยอด และทีมบาร์จากRabbit Hole และถือเป็นอีกหนึ่งโจทย์ท้าทายในการสร้างค็อกเทลที่มีเอกลักษณ์เข้ามาผสมผสานกับอาหารได้อย่างลงตัว อาหารของที่นี่ล้วนถูกออกแบบจากแรงบันดาลใจของ Riley Sanders เชฟใหญ่ชาวเท็กซัสที่พกพาไอเดียและฝีมือไม่ธรรมดา ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการเดินทางเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจและประสบการณ์ด้านอาหาร ตลอดจนเรียนรู้เรื่องของวัตถุดิบท้องถิ่นจากนานาประเทศทั่วโลก กระทั่งได้เดินทางมาเมืองไทยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และหลงรักเสน่ห์ของกรุงเทพมหานครเข้าเต็มเปา จึงตัดสินใจร่วมใส่จิตวิญญาณด้านอาหารให้กับ Canvas ในที่สุด ซึ่งเกือบทั้งหมดของวัตถุดิบและส่วนผสมหลักที่เชฟเลือกใช้นั้นเป็นของท้องถิ่นที่หาได้จากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย นำมายกระดับเป็นไอเดียตั้งต้นผสมผสานเทคนิคการปรุงที่เหมาะสมลงไปอย่างพิถีพิถันใส่ใจ จนพร้อมเสิร์ฟเมนูหน้าตาดีในคอนเซ็ปต์ Contemporary Bangkok Cuisine ที่สื่อถึงแง่งามของกรุงเทพฯ ให้ลูกค้าได้ลิ้มรส สัมผัส และตีความผ่านรสชาติด้วยตัวเอง
เริ่มสัมผัสประสบการณ์อาหารฉบับ Canvas ด้วย Complimentary ที่ทุกโต๊ะจะได้รับอย่าง Purple Jam Flat Bread ขนมปังมันเทศหอมกลิ่นไหม้นิดๆ จากการย่างบนถ่านไม้ของไทย ทานพร้อมสเปรดที่ทำจากส่วนผสมและสมุนไพรไทยหลายชนิดจนได้รสชาติที่น่าสนใจและแปลกใหม่มากๆ เป็นการวอร์มอัพระหว่างรอ Charred Sweet Corn, Crushed & Thicked with its milk พร้อมเสิร์ฟเป็นจานแรก ซึ่งเชฟชูข้าวโพดจากเขาใหญ่ให้เป็นพระเอกของจานนี้ โดยผ่านการปรุงที่ต่างกันถึง 7 แบบ เพื่อให้ได้มิติของสัมผัสที่หลากหลาย เสริมรสด้วยชีสจากเชียงราย พริกเขียว มะนาว และไข่แดงเคลือบน้ำปลาทำเองวางด้านบน
ต่อมาคือ Mud Crab & Lotus เนื้อปูทะเลสดนึ่งหวานฉ่ำเต็มคำเคล้ารากบัวสด ซอสสาหร่ายน้ำจืด เพิ่มเนื้อสัมผัสกรุบกรอบด้วยรากบัวทอดและผักแขยงด้านบน ส่วนผสมต่างๆ ล้วนเติมเต็มซึ่งกันและกันได้อย่างไร้ที่ติ
ตามด้วย Meklong Catfish, Caramelized with Tamarind ซึ่งเชฟใช้ปลาดุกแม่กลองมาแต่งตัวใหม่จนละม้ายคล้ายปลาไหลญี่ปุ่นทั้งหน้าตาและเนื้อสัมผัสที่ดีด้านในเนื้อนุ่มมันชุ่มฉ่ำ หนังกรอบเคล้าซอสมะขามหอมกลิ่นย่างเตาถ่านที่ปลายจมูก เคียงมากับองุ่น มะอึก โฟมมะพร้าว และพูเรที่ทำจากใบชิโสะไทย รวมถึงเอกลักษณ์แห่งกลิ่นรสรุนแรงจากส่วนผสมหลักทั้ง 3 ตัว อย่าง คอแกะ สะตอ และหอยแครง ที่เชฟจับมาเฉือดเฉือนกันได้อย่างน่าสนใจ โดยใช้ชื่อว่า Lamb Neck & Blood Clam เป็นจานส่งท้ายได้อย่างควรค่าแก่การจดจำและกระตุ้นให้อยากกลับมาลิ้มลองอีกครั้ง…และอีกครั้ง
Canvas ระหว่างทองหล่อซอย 5-7
โทร. 02 069 3067
ผู้สื่อข่าวสายธุรกิจอาหาร ที่นำเสนอเรื่องราวของธุรกิจ ตลอดจนมุมมองธุรกิจจากเชฟและเจ้าของธุรกิจที่น่าสนใจ
