MOODZ มนต์สะกดแห่งอารยธรรมนิวยอร์กยุค 60

ผู้เข้าชม 5,013

มนต์สะกดแห่งอารยธรรมนิวยอร์กยุค 60 ร้านอาหารยุโรปแนวคิดใหม่ที่ฉีกกฎทุกความธรรมดา ด้วยงานดีไซน์แนวเรทโทรร่วมสมัยที่สะท้อนตัวตนออกมาได้ไม่ซ้ำใครผสานความกระชุ่มกระชวยและอบอุ่นใจในบรรยากาศ ที่โดดเด่นอยู่ใจกลางทองหล่อ ถนนสายไลฟ์สไตล์ที่น่าจับตามองที่สุดในกรุงเทพฯ

คุณเจสเปอร์ แซนโด้ มอร์ค หนึ่งในพาร์ทเนอร์และผู้จัดการทั่วไปของร้าน ได้เปิดใจถึงแนวคิดแบบ MOODS ให้ได้รู้จักอย่างหมดเปลือก

คุณแจสเปอร์ : ที่นี่เริ่มต้นมาจากพาร์ทเนอร์ 4 คน ที่มีความถนัดต่างกัน แต่เห็นพ้องกันหลังจากที่ได้โลเกชั่นตรงนี้มาว่าอยากสร้างร้านอาหารสมบูรณ์แบบทั้งแนวอาหาร รสชาติ ดีไซน์ และบรรยากาศ ซึ่งคนที่เข้ามาจะต้องสัมผัสได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายที่โอบรอบความหรูหราสง่างามไว้ได้อย่างไม่มากไม่น้อยเกินไป จึงหยิบกลิ่นอายของอารยธรรมนิวยอร์ก ยุค 60 เข้ามาเป็นธีมหลักในการตกแต่ง ที่พร้อมสื่อภาพลักษณ์ชัดเจนออกสู่สายตาของผู้ที่มาเยี่ยมเยียน ซึ่งเหตุผลที่เลือกยุคนิวยอร์ก 60 หรือประมาณปี 1960 มาเติมแต่งสีสันให้กับร้าน นั่นก็เพราะนิวยอร์กเป็นเหมือนบ้านเกิดของวัฒนธรรมที่หลากหลาย และถ้าย้อนกลับไปในช่วงนั้น จะพบว่ามีร้านไฟน์ ไดนิ่ง แบบ Traditional American Dining เกิดขึ้นเยอะมาก เป็นความสบายๆ ไม่ต้องทางการ แต่ดูโดดเด่นและมีชีวิตชีวา ซึ่งเราชอบความรู้สึกแบบนี้ จึงนำมาเป็นโจทย์ในการดัดแปลงให้เข้ากับยุคปัจจุบัน ตั้งใจสร้างให้ที่นี่เป็นไฟน์ ไดนิ่ง ที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะมาคนเดียว มากับครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก

คุณแจสเปอร์ : การลงดีเทลในการตกแต่งทั้งหมด เราได้ ไบรอัน เคนท์ เชอร์แมน ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์มือทองของบริษัทออกแบบรีสอร์ตที่ใหญ่ที่สุดของประเทศมาเนรมิตภาพฝันให้ตกผลึกกลายเป็น MOODS ที่มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลัก คือ บริเวณเอ้าท์ดอร์ที่นำเสนอความเป็นธรรมชาติของวิถีชีวิตชาวทองหล่อได้อย่างใกล้ชิด และโซนด้านในที่เน้นองค์ประกอบของโครงสร้างตระการตา การแบ่งสัดส่วน การกำหนดอารมณ์โดยใช้โทนสีที่สื่อถึงยุค 60 โดยเฉพาะสีสว่าง สะอาด สนุกสนาน และเปี่ยมด้วยพลังไม่หยุดนิ่ง อย่างเหลืองอมส้ม สีเทอร์ควอยซ์ สีเขียวมิ้นต์ สีเขียวมรกต และสีทอง ฯลฯ เช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์และของแต่งร้านชิ้นน้อยใหญ่ ที่เราออกแบบและสั่งทำใหม่ให้เข้ากับสไตล์ของร้าน โดยหยิบเอาความรุ่งเรืองแห่งยุค อาทิเช่น ดนตรีแจ๊ส มาตีความและสื่อออกมาเป็นผลงานศิลปะได้อย่างลูกเล่น ประกอบกับการดีไซน์โทนแสงในแต่ละช่วงเวลาที่เรากำหนดทิศทางเอาไว้เพื่อนำสายตาไปสู่ไฮไลต์ที่ต้องการโดยเฉพาะหน้าบาร์ และดนตรีแบบ Tailor Made ที่ผลัดเปลี่ยนไปตามเส้นสีของขอบฟ้า

คุณแจสเปอร์ : แน่นอนว่าสไตล์อาหารและเครื่องดื่มของที่ร้านก็ต้องมีกลิ่นอายมาจากยุค 60 ด้วยเช่นกัน อย่างอาหารเราคิดขึ้นมาอย่างพิถีพิถันโดยนำแรงบันดาลใจของเทคนิคการปรุงตำรับอิตาเลียน ฝรั่งเศส และแถบ เมดิเตอร์เรเนียนดั้งเดิมมาผสานความคลาสสิกเข้ากับไอเดียแปลกใหม่กลายเป็นเมนูยูโรเปี้ยนที่มีเอกลักษณ์ประจำร้าน นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับวัตถุดิบและส่วนผสมชั้นยอด พร้อมบาร์ฟูลคอนเซ็ปต์ที่เน้นหนักทั้งค็อกเทลและไวน์ ซึ่งถูกดีไซน์ให้เติมเต็มอรรถรสแห่งมื้ออาหารที่เป็นมากกว่าความสุข.