Kiosk café ความเรียบง่ายไม่สิ้นสุด

คอนเซ็ปต์ของร้านคือ Real food, Real life เน้นให้ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่มีอุปกรณ์บางอย่างมาเสริมดูให้สวยขึ้น เช่น ใช้ขวดโหลเสิร์ฟขนม หรือทำอาหารง่ายแต่ตกแต่งให้มีดีไซน์ แต่ไม่พยายามดูประดิษฐ์จนเกินไป

ใจกลางย่านสุขุมวิท เขตมหานครอันวุ่นวายที่ผู้คนสัญจรกันหนาแน่นทุกมุมถนน มีร้านคาเฟ่ดีไซน์เก๋ซ่อนตัวอยู่ในโครงการ The Barkyard BKK โครงการที่เกิดมาเพื่อคนรักสุนัข

ซึ่งที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของร้าน Kiosk Café ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนและอเมริกันในรูปแบบ real food, real life ที่ดัดแปลงร้านมาจากบ้านไม้หลังเก่าให้ดูดียิ่งขึ้น โดยได้ คุณบอย วุฒิพงศ์ ภูรีมหาวงศ์ เชฟประจำร้าน และ คุณโจ สมโภชน์ ลีลารังสี Assistant Manager มาร่วมแบ่งปันแรงบันดาลใจของร้านนี้ให้ทุกคนได้ฟังกัน

คุณบอย : ร้านนี้เริ่มเปิดเมื่อเดือนสิงหาคม 2557 โดยเมื่อก่อนร้านจะอยู่ที่ TCDC แต่ปิดร้านลงเพราะว่าหมดสัญญา ต่อมา คุณเจสัน (Jason Rumholm) และคุณเบน (บัณฑิต โบว์เสรีวงศ์) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านมีโอกาสได้รู้จักกับเจ้าของโครงการแห่งนี้ เขาจึงชักชวนให้มาเปิดร้านที่โครงการ The Barkyard BKK ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากคุณเจย์ (Jay Spencer) เจ้าของพื้นที่ที่ตัวเขานั้นชอบเลี้ยงสุนัขมาก แต่ในบริเวณนี้ไม่มีที่ไหนสามารถพาสุนัขไปได้ เขาจึงสร้างพื้นที่แห่งนี้ขึ้นให้เป็นสถานที่ส่วนตัวสามารถหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง แล้วนำสุนัขมาเดินเล่น ว่ายน้ำ พักผ่อนและร่วมทานอาหารกับเจ้าของได้อย่างไม่ต้องกังวล (ยิ้ม) ซึ่งการใช้คำว่า Kiosk ที่แปลว่า ซุ้มร้านค้าเล็กๆ มาจากเจ้าของร้านที่อยากทำร้านค้าเล็กๆ ให้ใครๆ ก็ทานได้

คุณโจ : ในส่วนของการตกแต่งร้านคุณเจสันจะเป็นคนออกแบบทั้งหมด ด้วยความที่เขาเป็นดีไซน์เนอร์จึงนำบุคลิกของตัวเองเข้ามาผสมในการออกแบบ โดยตัวบ้านไม้มีอายุประมาณ 80 ปี เพียงแค่ทุบประตูออกแต่คงไว้โครงสร้างหลักเหมือนเดิม นอกนั้นตกแต่งใหม่ทั้งหมดโดยใช้โทนสีดำเทาเข้ามาให้ร้านดูคลาสสิก เน้นการเปิดโล่งให้ร้านดูกว้าง ซึ่งถ้าอากาศไม่ร้อนก็จะเปิดโล่งทั้งหมด แต่ได้แค่ช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค.เท่านั้น เพราะนอกจากนี้เมืองไทยเปิดไม่ได้ อากาศร้อนมาก (หัวเราะ)

คุณโจ : สำหรับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในร้านจะเน้นโชว์เนื้อผิวของวัตถุที่ทำจากไม้ เหล็กและปูน ตามแบบ Rustic style ที่ให้ความอบอุ่นแบบชนบท ดิบๆ ไม่เน้นความหรูหราและพิถีพิถันเกินไป โดยนำของใหม่อย่างโต๊ะ เก้าอี้และโครงประตูมาทำให้ดูเก่าทั้งหมด และความเก๋อย่างหนึ่งที่ร้านเรามีคือ การฉายหนังเก่าโดยมีพนังร้านเป็นจอฉายขนาดใหญ่ ซึ่งหนังทั้งหมดมาจากความชอบของเจ้าของร้าน ที่เขาจะไปเสาะหาแผ่นหนังมาฉายให้ลูกค้าดูเรื่อยๆ

คุณบอย : และตัวคอนเซ็ปต์ของร้านคือ Real food, Real life เน้นให้ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่มีอุปกรณ์บางอย่างมาเสริมดูให้สวยขึ้น เช่น ใช้ขวดโหลเสิร์ฟขนม หรือทำอาหารง่ายแต่ตกแต่งให้มีดีไซน์ แต่ไม่พยายามดูประดิษฐ์จนเกินไป เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของร้านคือง่ายๆ สบายๆ และคุณสามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในร้านได้ ซึ่งลูกค้าบางคนก็แบ่งอาหารกินกับสุนัขก็มี (ยิ้ม) อีกทั้งไม่จำเป็นจะต้องนั่งทานในร้านเท่านั้นคุณสามารถถือไปกิน บริเวณรอบๆ หรือเข้าไปกินในสวนก็ได้เช่นกัน ถือได้ว่าโครงการนี้ช่วยมาเติมเต็มความสุขให้กันและกันระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก

สถานที่: The Barkyard BKK สุขุมวิท 26
FB: kioskcafebkk