คุณอริยะ ชิบาต้า, Managing Director ผู้บริหารรุ่นที่สองของ Tohkai เล่าถึงการเดินทางในแวดวงอาหารญี่ปุ่นประเทศไทยให้ฟังว่า ย้อนกลับไปเกือบ 40 ปีที่แล้ว ร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นน้อยมาก คุณพ่อผมซึ่งเป็นวิศวกรชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานในกรุงเทพฯ จึงผุดไอเดียเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นขึ้นเพื่อให้กลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในเมืองไทยได้มาสังสรรค์กันหลังเลิกงาน ซึ่งความนิยมก็กระจายวงกว้างขึ้นแบบปากต่อปาก ทำให้คุณแม่มองเห็นโอกาสและลองนำเข้าวัตถุดิบอาหารจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อมาใช้ในร้านอาหารของครอบครัวและซัพพลายให้กับร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ ปรากฏว่าผลตอบรับดีมากทั้งร้านอาหารหรือบริษัทนำเข้าวัตถุดิบ จึงตัดสินใจปิดตัวร้านอาหารลงเพราะดูแลไม่ไหว และเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับการนำเข้าอย่างเต็มกำลัง
ขณะที่ธุรกิจซัพพลายเออร์กำลังไปได้สวย คุณพ่อก็ทนเสียงเรียกร้องของกลุ่มลูกค้าขาประจำไม่ไหว จึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นขึ้นอีกครั้งที่นิคมอุตสาหกรรมบางพลี โดยเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ค่อนข้างมีความหลากหลายของเมนู ซึ่งก็ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ดี และมีการขยายสาขาต่อเนื่องมาจนถึงแห่งที่ 3 ซึ่งคุณอริยะเปิดเผยว่า เป็นสาขาที่เริ่มเข้ามาชิมลางบริหารด้วยตัวเอง ซึ่งก็มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งการรีแบรนด์ดิ้งสาขาที่มีอยู่โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Tohkaiซึ่งออกเสียงง่ายและมีความหมายที่ดี รวมทั้งมีการเพิ่มไลน์ยากินิกุ หรือ ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น เข้าไปเพื่อเพิ่มความหลากหลาย ภายใต้การบริการในรูปแบบอาลาคาร์ทบุฟเฟ่ต์ ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพอาหารเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นแบรนด์แรกๆ ของเมืองไทยที่ทำบุฟเฟ่ต์ในลักษณะนี้และสร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักในแบรนด์ Tohkai Japanese Restaurant (A La Carte & Buffet) และ Tohkai Yakiniku (A La Carte & Buffet)
ภายใต้การบริการในรูปแบบอาลาคาร์ทบุฟเฟ่ต์ ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพอาหารเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นแบรนด์แรกๆ ของเมืองไทยที่ทำบุฟเฟ่ต์ในลักษณะนี้
การบริหารจัดการของร้านอาหารแบบอาลาคาร์ทบุฟเฟ่ต์นั้นช่วยในเรื่องของการควบคุมต้นทุนและลดการสูญเสียได้ดีกว่าการทำบุฟเฟ่ต์ปกติ และยังให้ความรู้สึกถึงความใส่ใจอีกด้วย
แต่ในทางกลับกันลูกค้าอาจเกิดความกังวลเรื่องระยะเวลาในการออกอาหาร แต่หากเรามีการวางระบบที่ดีก็จะช่วยลดอุปสรรคและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอนและนอกจากความแตกต่างด้านการจัดการแล้ว อีกหนึ่งความได้เปรียบของเราก็คือ การเป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นและประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ครบครันและดำเนินกิจการมายาวนาน ภายใต้ชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด มิกะ และ บริษัท โตไกย่า จำกัดทำให้เราสามารถคัดสรรคุณภาพของวัตถุดิบต่างๆ เพื่อซัพพลายให้กับร้านอาหารในเครือ Tohkai รวมทั้ง Tohkai Catering ได้อย่างมั่นใจ
ผมเชื่อมั่นว่าท่ามกลางกระแสการแข่งขันของร้านอาหารญี่ปุ่นในตอนนี้ การมอบคุณภาพที่สมเหตุสมผลกับราคาให้กับลูกค้าด้วยความจริงใจ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
ด้วยการเติบโตของตลาดอาหารญี่ปุ่นที่ขยายตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน กลายเป็นประเภทอาหารที่อยู่ในกระแสความสนใจของผู้บริโภค ผู้บริโภคก็สั่งสมประสบการณ์ ความรู้ และความเข้าใจในวัฒนธรรมการกินอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าท่ามกลางกระแสการแข่งขันของร้านอาหารญี่ปุ่นในตอนนี้ การมอบคุณภาพที่สมเหตุสมผลกับราคาให้กับลูกค้าด้วยความจริงใจ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน และทำให้วันนี้ Tohkai สามารถขยายสาขาไปทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑลถึง 16 แห่ง และจะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่งในปีหน้า ร่วมด้วยการเตรียมความพร้อมเพื่อรุกตลาดต่างจังหวัดและต่างประเทศในอนาคตอันใกล้ และการขยายธุรกิจซัพพลายเออร์แบรนด์ใหม่ในเครืออย่าง DD-Delicious ที่น่าจะได้เห็นกันในเร็วๆ นี้ คุณอริยะกล่าวทิ้งท้าย
กลุ่มหนุ่มสาว ที่บอกเล่าเรื่องราว ร้านอร่อยหรูทั่วไทย จากฝีมือเชฟระดับโลก และเจ้าของร้านอาหารชั้นนำ