เดิมทีเรามีความเชี่ยวชาญจากการเป็นซัพพลายเออร์วัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นมาก่อน และหนึ่งในกิจกรรมของเราก็คือ การให้คำปรึกษาและฝึกสอนทำอาหารให้กับลูกค้า
คุณพัชรี พนาราม, Culinary School Director คนเก่งเปิดเผยถึงการก่อตั้งสถาบันศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่น เดอะ วีสคูล ว่า “เดิมทีเรามีความเชี่ยวชาญจากการเป็นซัพพลายเออร์วัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นมาก่อน และหนึ่งในกิจกรรมของเราก็คือ การให้คำปรึกษาและฝึกสอนทำอาหารให้กับลูกค้า ซึ่งมีฟีทแบคที่ดีเรื่อยมา ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชฟวอลเตอร์ ลี (Mr.Walter Lee) ผู้บริหารและเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่นชั้นแนวหน้าระดับประเทศ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเปิดสถาบันสอนทำอาหารเอเชียนำโดยกลุ่มอาหารญี่ปุ่น เกาหลี ไทย สิงคโปร์ ขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2545 โดยใช้ชื่อว่าเดอะ วีสคูล ภายใต้การบริหารงานของ V Culinary Management Co., LTD.”
โดยการดำเนินงานของเดอะ วีสคูลนั้นจะเน้นหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพ การลงมือฝึกฝนปฏิบัติจริง ภายใต้องค์ความรู้ของบุคลากรผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ในภาคทฤษฎีควบคู่กับความถนัดจากภาคปฏิบัติ และสามารถนำพื้นฐานที่ได้ไปต่อยอดเป็นสูตรอาหารที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนการให้คำแนะนำด้านการคัดสรรวัตถุดิบและการบริหารจัดการร้านที่มีคุณภาพ ซึ่งทั้งหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนก็ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้เรียนเป้าหมายได้อย่างลงตัว เพราะ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้เรียนเป็น ผู้ประกอบการ อาทิ เจ้าของร้าน เชฟ หรือโรงแรม-ร้านอาหารส่งมาเรียน คนที่จะไปประกอบอาชีพที่ต่างประเทศ เป็นต้น ส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะมาเรียนเสริมทักษะเป็นงานอดิเรก
คุณพัชรีชี้แจงว่า “สำหรับหลักสูตรของที่นี่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากจากช่วงเริ่มต้นที่มีเพียง 3 หลักสูตร ซึ่งเราได้ปรับปรุงหลักสูตรต่างๆ เพิ่มเติมเข้ามา จนปัจจุบันเรามีหลักสูตรรองรับถึง 20 หลักสูตร ทั้งอาหารไทย เกาหลี สิงคโปร์ อาเซียน และญี่ปุ่นที่ครองส่วนแบ่งสูงสุดถึง 14 หลักสูตร ครอบคลุมครบถ้วนตามความต้องการของผู้เรียน ซึ่งสามารถเลือกเรียนครบทุกหลักสูตร ภายในเวลา 96 ชั่วโมง หรือเลือกเรียนแค่บางหลักสูตรก็สามารถทำได้ตามความสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่มักเลือกตามประเภทของอาหารเพื่อไปเปิดร้านอาหารประเภทนั้นๆ โดยมี 4 หลักสูตรยอดนิยมคือ หลักสูตรอาหารญี่ปุ่นขั้นพื้นฐาน, หลักสูตรการทำซูชิ, หลักสูตรการทำราเมน และหลักสูตรการทำชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ เนื่องจากกระแสการทำร้านชาบูชาบูที่กำลังมาแรงมากในตอนนี้ ขณะเดียวกันรูปแบบการสอนของที่นี่จะเน้นคลาสขนาดเล็กไม่เกิน 8 คนต่อคลาส เพื่อให้สะดวกต่อการลงมือปฏิบัติจริง มีความใกล้ชิดกับเชฟผู้สอน รวมถึงวัตถุดิบที่จัดเตรียมไว้ให้ผู้เรียนทุกคนก็เป็นเกรดเดียวกับที่นำไปประกอบกิจการจริง ทำให้เสมือนได้เรียนคลาสส่วนตัวในราคาที่คุ้มค่า และสามารถบริหารจัดการเวลาเรียนได้ตามความเหมาะสมตามตารางเรียนประจำเดือนที่เรากำหนดไว้”
ตลอดระยะเวลากว่า 14 ปี ที่ดำเนินการสอนมา เดอะ วีสคูล ได้รับการยอมรับให้เป็น Top 5 ของสถาบันสอนทำอาหารเอเชียที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งยังได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาของภาครัฐและองค์กรเอกชนที่มีชื่อเสียงต่างๆ มากมาย แต่ในขณะเดียวกันภาพรวมของตลาดอาหารญี่ปุ่นก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการโรงเรียนสอนทำอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากตามไปด้วย ซึ่งผู้บริหารสาวสวยแห่ง เดอะ วีสคูล มองว่าเป็นเรื่องปกติของตลาดที่ต้องมีการแข่งขัน แต่กุญแจของความสำเร็จในการแข่งขันที่ยั่งยืนนั้นอยู่ที่การรักษามาตรฐานการสอนของแต่ละสถาบัน ตลอดจนความต่อเนื่องในการพัฒนาธุรกิจเพื่อเติมเต็มคุณภาพที่ครบวงจร ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เดอะ วีสคูล ดำเนินการมาตลอดเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ อย่างเช่น การเป็นสถาบันสอนทำอาหารแห่งแรกที่พัฒนาวิธีการเรียนการสอนผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น (Mobile Application) ชื่อ The V School รองรับทั้งระบบ IOS และ Android ที่เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อสื่อสารข้อมูลความรู้ให้กับผู้เรียนผ่านรูปแบบ VDO และภาพนิ่งประกอบสูตรอาหารที่มีความละเอียดสูง มีขั้นตอนชัดเจน สามารถทำตามได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งการมีเพิ่มเมนูใหม่ๆ ให้ผู้เรียนได้ติดตามและนำกลับไปทบทวนฝึกฝนที่บ้านได้อย่างง่ายดาย สามารถเลือกทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนที่จะพัฒนาเพิ่มเข้ามาในเร็วๆ นี้ ซึ่งคนทั่วไปก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นและฝึกการทำเมนูจากสูตรอาหารที่แจกฟรีผ่านแอปพลิเคชั่นได้เช่นเดียวกัน
เดอะ วีสคูล ยังมองถึงโอกาสที่จะขยายสาขาไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนในอนาคต ร่วมกับการวางแผนความร่วมมือกับสถาบันที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อผนึกความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยจะนำร่องด้วยการเปิดหลักสูตรการเรียนผ่าน โมบายแอปพลิเคชั่น ซึ่งตอนนี้มี 4 คอร์ดหลักที่ขายผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น ทำให้ผู้สมัครสามารถเรียนทำอาหารได้อย่างสะดวกสบาย และหากไม่เข้าใจในส่วนไหนก็สามารถติดต่อสื่อสารผ่านทางอีเมล์ได้ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่ากลยุทธ์นี้จะเข้ามาช่วยให้ธุรกิจมีการเติบโตสูงขึ้นจากเดิมได้อย่างแน่นอน คุณพัชรีกล่าวทิ้งท้าย
กลุ่มหนุ่มสาว ที่บอกเล่าเรื่องราว ร้านอร่อยหรูทั่วไทย จากฝีมือเชฟระดับโลก และเจ้าของร้านอาหารชั้นนำ
