เสน่ห์ของสตรีทฟู้ดไทยอยู่ตรงไหน ทำไมถึงโดนใจคนทั่วโลก สตรีทฟู้ดไทยจะพลิกโฉมอย่างไรให้เพิ่มมูลค่า คำถามเหล่านี้ถูกไขความข้องใจกระจ่างเมื่อมาที่ห้องอาหาร Metro on Wireless โรงแรมอินดิโก กรุงเทพ
เชฟจิมมี่ จำลอง ปิวไธสงค์ Neigbourhood Chef ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์คอนเซ็ปต์สตรีทฟู้ดให้กับห้องอาหารในโรงแรมบูติคสุดฮิปบนถนนวิทยุ เล่าว่า สตรีทฟู้ดทรงเสน่ห์เพราะเป็นอาหารที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องตีความ และมอบสัมผัสที่เป็นจริง ทำให้ไม่ว่าใครก็เข้าถึงง่าย แต่การจับสตรีทฟู้ดมาเป็นธีมหลักของห้องอาหารในโรงแรม เป็นเรื่องไม่ง่าย ต้องทำการบ้านหนักและตีโจทย์ให้แตกเพื่อหาสมดุลระหว่างความเข้าถึงง่ายและลูกเล่นที่จะนำมาเพิ่มมูลค่าเพื่อสร้างปรากฏการณ์ให้กับการยกระดับสตรีทฟู้ดเชฟจิมมี่เดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนเส้นทางสายอาหารไทยในนานาประเทศเปิดเผยอย่างออกรสว่า คำว่าอาหารไทย เราคนไทยก็คุ้นเคยกันตั้งแต่เด็กๆ ส่วนตัวเชฟเองสนิทสนมกับอาหารไทยอีสานมากหน่อยเพราะที่บ้านเปิดร้านอยู่ที่ขอนแก่น ทำให้เลือกเติมพื้นฐานการครัวให้แน่นด้วยการศึกษาในภาควิชานี้อย่างจริงจัง ก่อนจะสยายปีกบินไปฝึกปรือฝีมืออยู่ที่ครัวไทยของโรงแรมชั้นนำในประเทศต่างๆ ไล่เรียงจากฮ่องกง เยอรมัน อินเดีย จอร์แดน ก่อนจะกลับมาประจำการที่ประเทศบ้านเกิด เรียกได้ว่าตลอด 24 ปีที่ผ่านมามีโอกาสได้เรียนรู้และคลุกคลีอยู่กับอาหารไทยในหลายๆ วัฒนธรรม ซึ่งการสร้างสรรค์อาหารไทยในต่างแดนนั้นจำเป็นต้องมีการปรับวัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุง และรสชาติที่สอดรับกับรสนิยมของผู้บริโภคในพื้นที่นั้นๆ แต่สิ่งที่น่าดีใจก็คือ อาหารไทยเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติอยู่แล้วและกระแสความนิยมก็ไต่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพียงแต่เมื่อก่อนยังไม่ได้ถูกจำแนกประเภทอาหารออกมาอย่างสตรีทฟู้ดเหมือนทุกวันนี้
เมื่อกลับมาทำงานในเมืองไทยจึงเริ่มต้นใหม่ที่โรงแรมสุโขทัย และตัดสินใจออกจากพื้นที่ปลอดภัยหลังจากปีที่ 3 ของการทำงาน ซึ่งจุดเปลี่ยนในครั้งนี้เป็นความท้าทายก้าวสำคัญ เพราะโจทย์ที่ได้รับคือการครีเอทเมนูสตรีทฟู้ดเพื่อเปิด Metro on Wireless ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักที่เปิดตัวพร้อมกับโรงแรมอินดิโก กรุงเทพ เชฟจิมมี่ยอมรับว่าเป็นโจทย์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน และยังไม่มีใครยกสตรีทฟู้ดมาเป็นธีมหลักประจำห้องอาหารโรงแรม จึงค่อนข้างกังวลและต้องทำการบ้านอย่างหนักอยู่กว่า 4 เดือน ก่อนจะเปิดห้องอาหารเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์ประกอบต่างๆ ของเมนูสตรีทฟู้ดที่นี่ โดยนำแรงบันดาลใจจากเมนูริมทาง เมนูในอดีตที่จางหายไปในปัจจุบัน เช่น ข้าวผัดรถไฟ เมนูประจำงานวัด รวมทั้งสตรีทฟู้ดจานเด็ดประจำภูมิภาคมานำเสนอมีการปรับรสให้กลมกล่อม เน้นเรื่องความสะอาดและคุณภาพวัตถุดิบเป็นสำคัญ ทุกเมนูจะต้องปราศจากผงชูรส อาทิ ยำปลากระป๋อง ข้าวซอย หมูคลุกฝุ่น หมูสะเต๊ะ คั่วกลิ้ง ทอดมันปลา ฯลฯ ร่วมกับการเลือกใช้ภาชนะที่อยู่ในความทรงจำวันวานซึ่งถูกหยิบมาใช้อีกครั้ง อาทิ งานสาน งานสังกะสี ชามตราไก่ และงานเครื่องปั้นดินเผา โดยจะสลับสับเปลี่ยนคู่กับการออกเมนูใหม่ๆ ทุก 6 เดือน พร้อมแทรกลูกเล่นลงไปในวิธีการเสิร์ฟ ภายใต้การตกแต่งห้องอาหารที่ซึมซับรสนิยมสไตล์ไทยเอาไว้ได้อย่างมีดีไซน์ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่เติมเต็มในทุกองค์ประกอบเพื่อมอบประสบการณ์อีกระดับให้กับลูกค้า
ซึ่งผลลัพธ์จากความตั้งใจก็สร้างความชื่นใจให้เชฟจิมมี่และทีมงานหายเหนื่อย เพราะลูกค้าแวะเวียนมาเป็นประจำทั้งคนยุโรป เอเชีย และไทย โดยเฉพาะช่วงเที่ยงพนักงานออฟฟิศจะค่อนข้างหนาตาเป็นพิเศษ เพราะที่นี่ยกอาหารที่คุ้นเคยกับวิถีการกินของคนทั่วไปเข้ามาอยู่ในโรงแรม มีความปลอดภัย รสชาติครบเครื่องถูกปาก บรรยากาศสบายๆ ในราคาที่จ่ายได้ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ลูกค้าไว้วางใจมาร่วม 2 ปี
เชฟจิมมี่อธิบายให้ฟังต่อว่าหากย้อนกลับไปวันแรกที่หยิบโจทย์นี้ขึ้นมาเล่น ภาพของอาหารไทยประเภทสตรีทฟู้ดยังไม่อยู่ในกระแสความนิยมเช่นทุกวันนี้ แต่หลังจากได้ทดลองตลาดแล้วพบว่าฐานลูกค้าของสตรีทฟู้ดเป็นกลุ่มที่กว้างมาก ทุกคนเข้าถึงได้ และสามารถพลิกแพลงเพื่อต่อยอดได้อีกหลากหลาย ด้านเชฟและผู้ประกอบการในแวดวงอาหารเองก็ระดมไอเดียและนำเสนอมุมมองใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารสตรีทฟู้ดได้อย่างมีสีสัน ส่วนแผนต่อไปของ Metro on Wireless ก็น่าจะได้เห็นการบรรจบกันของกระแสคลีนฟู้ดและเมนูสตรีทฟู้ดโดยที่ไม่เสียจุดยืนด้านรสชาติแต่เพิ่มคุณค่าเรื่องสุขภาพเข้ามาด้วย
นักผลิต contents ที่สนใจและจับตามองความเคลื่อนไหวในวงการอาหารและเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศ