ด้วยแรงบันดาลใจครั้งใหม่และการบ่มเพาะแนวคิดไม่ซ้ำใครจากครอบครัวทำให้ คุณธนพร และ คุณพลอยพรรณ มารควัฒน์ พี่น้องนักบริหารไฟแรง ทายาทคนเก่งของคุณลักขณนาจ มารควัฒน์ ผู้บริหารหญิงแกร่งแห่งร้านออมทองและนาจ ผนึกพลังปั้น Crab and Claw ร้านอาหารแบรนด์ใหม่สไตล์นิวอิงแลนด์ จนกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ทุกคนกล่าวขาน
ตั้งแต่เราเกิดมาก็เห็นที่บ้านทำร้านอาหารอยู่แล้ว เริ่มจากเล็กๆ เป็นธุรกิจครอบครัวที่มีคนช่วยประมาณ 10 กว่าคน จนขยายกิจการ ผมและพลอยได้ซึมซับและเรียนรู้จากการใช้ชีวิตอยู่ในร้านมาตั้งแต่เด็กๆ
แง่มุมต่างๆ ในการทำร้านอาหารถูกบ่มเพาะลงไปในตัวโดยอัตโนมัติ ที่บ้านจะมีการประชุมครอบครัวกันตั้งแต่เด็กๆ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับธุรกิจของเรา ซึ่งคุณแม่ก็จะสอนอยู่ทุกครั้งว่า การทำร้านอาหารเปิดง่ายก็ปิดง่ายเช่นกัน สิ่งที่สำคัญอยู่ที่วิธีการรักษาธุรกิจให้อยู่ได้นานที่สุด ซึ่งกลยุทธ์ที่บ้านเรายึดถือกันมาตลอดก็คือ การสร้างให้ธุรกิจไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์และตัวตนในแบบของเรา ดังนั้นโจทย์แรกของร้านอาหารทุกร้านที่เราสร้างขึ้นจึงมีคำตอบที่แตกต่างเสมอ ตั้งแต่ร้าน “ออมทอง” “นาจ” “The Local by Oamthong” จนถึงร้านล่าสุดคือ Crab and Claw
ลูกไม้หล่นใต้ต้น
ตอนเด็กๆ เราไปโรงเรียน เมื่อครูถามว่ามีใครเป็นแบบอย่างทุกครั้งพลอยจะตอบว่า อยากเป็นแบบคุณแม่ ส่วนผมเวลาเจอคำถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ก็จะตอบไปว่า อยากมีธุรกิจส่วนตัว (หัวเราะ) เพราะอะไรไม่รู้ แต่ด้วยความเป็นเด็กเราก็ตอบไม่ได้ว่าธุรกิจอะไร รู้แค่ว่าความฝันของเราคือสิ่งนี้ และเราชัดเจน พอเรียนจบก็ช่วยกันดูแลร้านอาหารของที่บ้านมาตลอด จนได้มาทำ Crab and Claw ร้านอาหารคอมฟอร์ดฟู้ดส์สไตล์นิวอิงแลนด์ ที่มีพลอยเข้ามาดูแลเต็มตัว ส่วนผมก็ทำหน้าที่ซัพพอร์ทน้อง
สำเร็จเพราะสังเกต
เราเข้าใจธรรมชาติของร้านอาหาร เพราะเราสังเกตและคร่ำหวอดมาตลอด ร้านอาหารมีหลายแบรนด์ รายละเอียดของแต่ละร้านก็ไม่เหมือนกัน แค่แบรนด์ร้านอาหารของครอบครัวผม ทุกร้านก็แตกต่างกัน ดังนั้นการทำแบรนด์จะต้องทำให้ถูกคอนเซ็ปต์ ถูกกลุ่มเป้าหมาย ถูกที่ และถูกเวลา อย่าง Crab and Claw เราใช้ทั้งเวลาและความทุ่มเทเพื่อปั้นแบรนด์ร้านอาหารที่ใหม่มากในเมืองไทย และด้วยกระแสที่ตอบกลับมามันแรงมากจนเราไม่ทันตั้งตัว เราสองคนยังคุยกันว่าเป็นเรื่องจริงรึเปล่า และจะยังแรงไปถึงเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยก็เป็นข้อพิสูจน์ที่น่าภูมิใจสำหรับการเริ่มต้น และทำให้เรามีความสุข สนุก และมีแรงที่จะสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้กับร้านอย่างเต็มที่ในทุกๆ วัน
บริหารคนแบบครอบครัว
การบริหารคนในแบบของพลอยอาจไม่ได้เหมือนที่คุณแม่ใช้ซะทีเดียว จะเป็นการประยุกต์สิ่งที่เรียนรู้จากคุณแม่ใช้มากกว่า ระบบก็มีวางไว้เป็นมาตรฐานแต่หลักๆ ก็คือ การดูแลกันแบบครอบครัว เราต้องให้ใจลูกน้องก่อน ถึงจะได้ใจกลับมา และทำงานอยู่ในองค์กรเดียวกันอย่างมีความสุข พยายามมีการเทรนนิ่งต่างๆ เพื่อให้ทีมได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองจากประสบการณ์จริง อีกสิ่งที่เสริมจากพลอยก็คือเรื่องของการเลือกทีมงานเข้ามาในองค์กร ผมจะเลือกรับคนรุ่นใหม่ คนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านอาหารเลย แล้วมาฝึก ผมเชื่อว่าการได้ลองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะทำให้เขาทำงานด้วยความสนุก
คิดต่างอย่างตกผลึก
ผมเชื่อในการตัดสินใจที่ผ่านการคิดใตร่ตรองที่ดีแล้วซึ่งมันใช้ได้ทั้งกับการทำงานในปัจจุบันและอนาคต เมื่อคิดแล้วก็จงลงมือทำสิ่งนั่นให้ดีที่สุด แล้วผลตอบแทนจะกลับมาเอง ปรัชญาของผม คือ ทำสิ่งที่รักอย่างมีความสุข เพราะความสุขช่วยให้เราเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ อย่างมีพลัง ในการทำธุรกิจเมื่อคนนอกมองอาจเห็นว่าประสบความสำเร็จ แต่แน่นอนว่าในทุกความสำเร็จมีปัญหาซ่อนอยู่เสมอ เมื่อพบปัญหา เราต้องรู้จักขอบคุณที่ช่วยสร้างโจทย์ให้เราได้แก้ไข เมื่อปัญหาผ่านไป ประสบการณ์จะสอนให้เราระมัดระวังและแข็งแกร่งขึ้น ส่วนพลอยจะใช้คำสอนของคุณแม่ที่คอยบอกให้มานะ อดทน และขยัน มาเป็นแนวทางในการทำธุรกิจ เมื่อเราอดทนต่อสู้กับปัญหาจนคลี่คลาย เราจะมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้พลอยเข้ามาดูแลร้านเต็มตัว ถึงจะเหนื่อยมาก แต่ยังไงก็พร้อมเดินต่อเสมอ เพราะเราได้แบบอย่างความขยันมาจากคุณแม่
ข้อมูลเพิ่มเติม: Facebook.com/CrabandClaw
กลุ่มหนุ่มสาว ที่บอกเล่าเรื่องราว ร้านอร่อยหรูทั่วไทย จากฝีมือเชฟระดับโลก และเจ้าของร้านอาหารชั้นนำ