เรามีการปรับลุคของแบรนด์ให้ดูทันสมัย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยลง อีกทั้งยังเสริมทัพด้วยกาแฟพรีเมียม
อุษาพรรณ อินทีวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2019 บอนกาแฟจะก้าวสู่ตลาดระดับพรีเมียมยิ่งขึ้น ซึ่งเรามีการปรับลุคของแบรนด์ให้ดูทันสมัย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยลง อีกทั้งยังเสริมทัพด้วยกาแฟพรีเมียม แบรนด์เซกาเฟรโด้, กาแฟ Single Origin แบรนด์เครซ คาเฟ่,กาแฟที่ได้รับ Certified อย่าง Rainforest Reserve เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟมากขึ้น ตลอดจนขยายไลน์สินค้าเครื่องดื่มที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อรักษาความเป็น One Stop Coffee Solution ในใจของลูกค้าตลอดไป
ซึ่งภายในงาน Thailand Coffee Fest ในปีนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่บอนกาแฟจะได้สื่อสารถึงรายละเอียดสุดพิเศษในปีนี้ตั้งแต่การออกแบบบูธบอนกาแฟที่ถูกดีไซน์ใหม่ โดยเน้นการนำเสนอภาพลักษณ์ของบอนกาแฟ กรุ๊ปมากขึ้น ผ่านคอนเซ็ปต์ One Brand One Voice ที่ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมบูธอย่างทั่วถึงในทุกจุด และต่อจากนี้บอนกาแฟ กรุ๊ป ทั้ง 9 แห่งในเอเชียและมิดเดิล อีสต์ ก็จะใช้คอนเซ็ปต์บูธลักษณะนี้ในการออกงานแฟร์ยังประเทศต่างๆ อีกด้วย รวมถึงสินค้าไฮไลท์ที่นำมาอวดโฉมครั้งแรกภายในงานทั้งเครื่องทำกาแฟแบรนด์ดังจากอิตาลี San Marco V6 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดสอดผสานดีไซน์และฟังก์ชั่นได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์การใช้งานของร้านกาแฟที่มีลูกค้าจำนวนมากได้อย่างเหนือระดับถึง 6 หัวชง และกาแฟ Single Origin แบรนด์เครซ คาเฟ่ (Craze Cafe) ที่นำ 2 เบลนด์พิเศษมาแนะนำให้คอกาแฟทำความรู้จักกันที่นี่เท่านั้น ได้แก่ เครซ คาเฟ่ No.6 กาแฟที่บอนกาแฟเข้าร่วมประมูลได้เป็นลำดับที่ 6 ในงาน Thailand Coffee Fest 2018 และ 1st Anniversary ที่ผลิตขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 1 ปีของแบรนด์เครซ คาเฟ่
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.boncafe.co.th
ผู้สื่อข่าวสายธุรกิจอาหาร ที่นำเสนอเรื่องราวของธุรกิจ ตลอดจนมุมมองธุรกิจจากเชฟและเจ้าของธุรกิจที่น่าสนใจ