36 ปีของบลูเอเลเฟ่นท์กับบทบาทการเป็นทูตวัฒนธรรมอาหารไทยในมิติต่างๆ ทั้งร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง แคทเทอริ่งแฟรนไซส์ซอร์ และไลน์โปรดักส์และซอสสำเร็จรูปที่ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับสากลรวมถึง Thai Street Food Cooking Set นวัตกรรมชิ้นโบว์แดงตัวล่าสุดที่ทีมงานทุกคนเหยาะความตั้งใจลงในส่วนผสมจนได้ผลลัพธ์ที่สร้างปรากฎการณ์ประทับใจครั้งใหม่ให้กับผู้บริโภคทั่วโลกอีกครั้ง
นิยามของสตรีทฟู้ดในมุมมองของ เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท บลูเอเลเฟ่นท์ จำกัด คือ อาหารที่ทุกคนสนุกไปกับการลองชิม เชฟนูรอเปิดประเด็นและอธิบายต่อว่า ตัวเชฟเองก็โตมากับสตรีทฟู้ดตั้งแต่เด็ก และเคยหยิบคอนเซ็ปต์สตรีทฟู้ดขึ้นมาเสิร์ฟแบบไฟน์ไดนิ่งในร้านตั้งแต่ 10 ปีผ่านมาซึ่งก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย ด้วยบุคลิกของอาหารที่เป็นกันเอง มีความหลากหลาย รสชาติเข้าถึงง่ายและราคาไม่แพง อีกทั้งยังหากินได้ทุกที่ทุกเวลา จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเมืองไทยจึงทำความรู้จักและสนิทสนมกับสตรีทฟู้ดไทยได้อย่างรวดเร็ว และด้วยชื่อเสียงของสตรีทฟู้ดไทยที่พุ่งแรงอย่างฉุดไม่อยู่ แม้แต่สื่อชื่อดังอย่าง CNN ยังยกให้กรุงเทพฯ ครองแชมป์สุดยอดเมืองที่มีร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดในโลก ทำให้เกิดการพัฒนามาสู่ Thai Street Food Cooking Set ซึ่งลูกค้าประเทศฮอลแลนด์เป็นผู้จุดประกายไอเดียนี้เพราะวางไว้ใจในมาตรฐานของบลูเอเลเฟ่นท์และเชื่อมั่นในศักยภาพของเชฟนูรอ
ประกอบกับทางเครือฯ เองก็มีความพร้อมในทุกองค์ประกอบทั้งแบรนด์นวัตกรรมการสร้างสรรค์ กำลังการผลิต หรือแม้แต่โรงงานที่ทันสมัย Thai Street Food Cooking Set หรือ ผลิตภัณฑ์อาหารสตรีทฟู้ดพร้อมปรุง 5 เมนูนำร่องยอดนิยม ได้แก่ ผัดไทย ทอดมันปลา ข้าวซอย หมูสะเต๊ะ และข้าวเหนียวมะม่วง จึงออกสู่ตลาดฮอลแลนด์เป็นประเทศแรกเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ด้วยคอนเซ็ปต์ทำง่าย ปรุงง่าย มีขั้นตอนการปรุงบอกอย่างละเอียด ให้รสชาติที่ดีเหมือนนั่งกินสตรีทฟู้ดที่เมืองไทยในบ้านคุณ และมีอายุของผลิตภัณฑ์ประมาณปีครึ่ง ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างยอดเยี่ยมรวมถึงในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ในงาน Thaifex ที่ผ่านมาก็ดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้าได้ดีเช่นกัน
การพัฒนาผลิตภัณฑ์เซ็ตนี้ซึ่งใช้ระยะเวลาไม่มากไม่น้อยประมาณ 6 เดือนในการปรับสูตรตลอดจนกระบวนการผลิต ส่วนการตัดสินใจเลือกเมนูสตรีทฟู้ดมาใส่นวัตกรรมนั้นวัดจากฐานความนิยมเป็นหลัก ทั้ง 5 เมนูนั้นเชื่อว่ากลุ่มลูกค้ารู้จักกันดีอยู่แล้ว โดยแต่ละเมนูจะมีความพิเศษแตกต่างกันออกไป อาทิ การเป็นแบรนด์แรกที่ทำเซ็ททอดมันปลาออกสู่ตลาด ส่วนเซ็ทผัดไทยนั้นก็ใช้เส้นออร์แกนิกแทนเส้นจันท์ทั่วไป เป็นต้น ซึ่ง Thai Street Food Cooking Set ของบลูเอเลเฟ่นท์ถือเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารระดับพรีเมียมที่สร้างมูลค่าเพิ่มมาจากตัวเชฟ และมีแผนจะเปิดตลาดในนานาประเทศเพิ่มเติมจากฮอลแลนด์ โดยปักหมุดที่ไต้หวันและนอร์เวย์ เป็นแห่งถัดไป ซึ่งในแง่ของการผลิตผลิตภัณฑ์จะทำตามออร์เดอร์เท่านั้นและจัดส่งไปยังประเทศต่างๆ โดยมีการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายและวางแผนการตลาดร่วมกันแบบเฉพาะเจาะจงในแต่ละประเทศ เพื่อให้ประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งด้านการสร้างแบรนด์และการสื่อสารกับลูกค้า และสำหรับในประเทศไทย กลุ่มลูกค้าสามารถหาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ คุณเส็งยอมรับว่า คู่แข่งในตลาดต่างประเทศก็มีอยู่บ้างและมักแข่งขันกันในเรื่องของราคา แต่จุดแข็งที่บลูเอเลเฟ่นท์ได้เปรียบคือตัวเชฟและความเชื่อมั่นจากร้านอาหารของเราที่มีอยู่ในหลายประเทศ ทำให้บลูเอเลเฟ่นท์เป็นแบรนด์ที่มีดีเอ็นเอที่แข็งแกร่ง และไม่กลัวการลอกเลียนแบบ เพราะยิ่งเกิดการเลียนแบบก็ยิ่งเป็นเครื่องตอกย้ำว่าเรามาถูกทาง
และเมื่อสอบถามปิดท้ายถึงแนวโน้มการเติบโตของสตรีทฟู้ดและการวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่เกื้อหนุนกัน ก็ได้รับคำตอบว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารนั้นเติบโตทุกปี และ สตรีทฟู้ดก็เป็นพาร์ทที่ยังมีโอกาสสร้างมูลค่าได้อีกมาก ทุกๆ ปีบลูเอเลเฟ่นท์จะต้องวิเคราะห์เทรนด์และออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อกระตุ้นตลาด ซึ่งสตรีทฟู้ดก็เป็นหนึ่งในไลน์ผลิตภัณฑ์ที่จะมีการพัฒนาต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาซอสสำหรับผัดที่น่าจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่นิยมทำอาหารที่บ้านได้ดี ควบคู่การกับทำโครงการร่วมกับภาครัฐและเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่ประเทศต่างๆ จัดขึ้นเป็นประจำ เพื่อเผยแพร่เจตนารมณ์ในการผลักดันอาหารไทยไปสู่สายตาสากล
นักผลิต contents ที่สนใจและจับตามองความเคลื่อนไหวในวงการอาหารและเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศ