เปิดประสบการณ์อาหารจานใหม่ จากวัตถุดิบชั้นเลิศต้นทางจังหวัดคาโกชิม่า และหมู่เกาะโกะโต จังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยกลุ่มเชฟสุดยอดฝีมือ
วันนี้บก. ได้มาเปิดประสบการณ์อาหารจานใหม่จากวัตถุดิบญี่ปุ่นที่ร้านอัคนี ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ที่โครงการเอกมัย ปาร์ค ถนนสุขุมวิท แฟนคลับอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงมารีวิวอาหารในร้านที่เน้นเมนูไทย ขอเฉลยเลยเพราะเรากำลังจะเปิดประสบการณ์อาหารจานใหม่ จากวัตถุดิบชั้นเลิศต้นทางจังหวัดคาโกชิม่า และหมู่เกาะโกะโต จังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยกลุ่มเชฟสุดยอดฝีมือที่ Wafood ได้คัดเลือกและเชิญไปดูแหล่งวัตถุดิบต้นทาง ที่จะมาร่วมรังสรรค์เมนูสุดว้าวครั้งนี้
นำทีมโดย เชฟ “เอียน” พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย ไอรอนเชฟ เจ้าของร้านอาหารในไทย สิงคโปร์ และ ประเทศสหรัฐอเมริกา, เชฟศรัณย์ ใจเพชร Executive Chef โรงแรมไฮแอท เพลซ กรุงเทพ สุขุมวิท, เชฟ “เจ” นพรุจ อุดกันทา Executive Sous Chef โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท, เชฟธีราภรณ์ บริกัปปกุล เชฟประสบการณ์ร้านมิชลินสตาร์ปัจจุบันหัวหน้าครัวประจำร้าน Akanee และเชฟกัลญา งามขำ Menu development chef in Thailand and Japan
ก่อนที่เราจะไปรับรู้ประสบการณ์อาหารจานใหม่ที่รังสรรค์โดยเชฟมืออาชีพ ขอแนะนำวัตถุดิบคุณภาพที่วาฟู้ดนำเข้ามาเพื่อให้สะดวกแก่ผู้ใช้มากยิ่งขึ้น “ Wafood” คือแบรนด์ที่นำเสนอคุณค่าที่แท้จริงของวัตถุดิบคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความปรารถนาที่จะแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำกว่าจะได้เป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพระดับสูงจากประเทศญี่ปุ่น ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง อาทิ สภาพอากาศ ความมุ่งมั่นของผู้ผลิต และเทคนิคการผลิตขั้นสูง วัตถุดิบอาหารคุณภาพแบบญี่ปุ่นหลอมรวมกับวัฒนธรรมทำให้วัตถุดิบต้นทางได้คุณภาพพรีเมี่ยมจากความใส่ใจในทุกขั้นตอน ความพิถีพิถันนี้ได้ส่งต่อให้เชฟได้สัมผัสและรับรู้จากกิจกรรม “ Wafood JAPAN Discovery 2024” ซึ่งเป็นการเดินทางไปเยี่ยมชมพื้นที่การผลิต ที่จังหวัดคาโกชิม่า และหมู่เกาะโกะโต จังหวัดนางาซากิ ณ ประเทศญี่ปุ่น การรังสรรค์ทุกเมนูจึงมั่นใจได้ว่าเราจะได้รับรสชาติอาหารสุดพรีเมี่ยมจากวัตถุดิบชั้นเลิศและเทคนิคการทำชั้นเยี่ยมจากเชฟที่ร่วมคณะไป
จากการเข้าใจวัตถุดิบอย่างลึกซึ้งทำให้เชฟรับรู้คุณค่าวัตถุดิบมากยิ่งขึ้นโดยในกิจกรรมครั้งนี้เชฟ ทั้ง 5 ได้ทำการเลือกวัตถุดิบที่หลากหลาย กว่า 4 ชนิด มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารสุดพิเศษ
เมนูวันนี้ขอเริ่มต้นที่ เชฟ “เอียน” พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย (Chef Ian Kittichai) เชฟเลือกทำเมนู ยำเนื้อวากิวย่าง (Grilled Wagyu Beef Salad) เพราะเข้าถึงง่าย และเข้ากับวัฒนธรรมของคนไทย ด้วยเนื้อคาโกชิม่าวากิว จัดเป็นระดับพรีเมียมต้นตำรับ เข้ากับน้ำยำรสชาติดี ยิ่งทำให้อาหารได้อรรถรสยิ่งขึ้น
ที่สำคัญเชฟใช้เทคนิคการทำน้ำยำแบบแห้งโดยนำมันเนื้อที่ได้จากการตัดแต่งเนื้อย่างมาเจียวกับกระเทียมไทยโขลกใส่น้ำตาล น้ำมะขามเปียกพริกแห้งตำ รสชาติจานนี้บอกเลยว่าดีงาม ส่วนการย่างเนื้อใช้เทคนิคการย่างเตาถ่านและใช้มันจากการตัดแต่งเนื้อโยนเข้าเตาถ่านเมื่อไฟลุกจะได้กลิ่นหอมรมควัน ทำทั้งหมด 4 รอบ เพื่อให้เนื้อย่างหอมกรุ่นรมควันได้นานขึ้น จานนี้ว้าวมากเพราะคำเล็ก ๆแต่ทรงอิทธิพลด้านรสชาติ เข้มข้นเนื้อย่างหอมกรุ่นสไลด์บาง บทสรุปจานนี้คือดีตั้งแต่วัตถุดิบต้นทางผสานกับเทคนิคการทำของเชฟเอียน…สุดยอดมาก
รวมถึงขนมหวานอีก 2 เมนูในวันนี้คือ เค้กชาเขียวหน้านิ่ม (Soft Green Tea Cake) ที่เสิร์ฟคู่กับมัจฉะคุณภาพ รวมถึง พุดดิ้งชาโฮจิ ใส่น้ำกะทิ (Hojicha Pudding with Coconut Milk) เชฟเอียนรังสรรค์เมนูขนมหวานจากความพิเศษของตัวชาที่ช่วยกระตุ้นต่อมน้ำลายในปาก ทำให้รับรสกระตุ้นให้มีความรู้สึกอยากทานมากขึ้น ซึ่งความหวานของขนมเมื่อได้ผสมชาเข้าไปทำให้ในหนึ่งคำได้ความกลมกล่อมหอมเพิ่มรสชาติยิ่งขึ้น เป็นเมนูขนมหวานที่ลงตัวเช่นกัน
สำหรับ เชฟศรัณย์ ใจเพชร (Chef Sarun Jaipetch) Executive Chef โรงแรมไฮแอท เพลซ กรุงเทพ สุขุมวิท วันนี้เลือกเมนู สเต็กเนื้อวากิวกับซอสมัสมัน (Wagyu Steak with Massaman Sauce) ที่เลือกเมนูนี้ออกมา เนื่องด้วยโรงแรมของเรามีร้านอาหารแอร์บาร์ เป็นสไตล์แบบชิล ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแขกคนไทย
ที่แอร์บาร์จะเน้นด้านอาหารไทยเราเลยคิดคอนเซ็ปต์เป็นฟิวชัน ผสมผสานแนวฝรั่งกับไทยแล้วมาปรับตัวส่วนผสม โดยยังคงคอนเซ็ปต์ที่เป็นไทยอยู่ซึ่งเราใช้ตัวซอสที่เป็นมัสมั่นดั้งเดิม ฟิวชันโดยใช้มูสของถั่วอัลมอนด์ และวอลนัท แล้วใช้เนื้อคาโกชิม่าวากิวส่วนหัวไหล่ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นเนื้อส่วนที่นุ่มเส้นเอ็นจะไม่มีเลย จะมีแต่ส่วนของไขมันที่แทรกมาตามเส้นเนื้อเวลาย่างจะมีความนุ่ม และได้รับรสน้ำมัสมั่นที่เคี่ยวตุ๋นเครื่องเทศจนหอมกรุ่นพร้อมเสิร์ฟ…เมนูนี้ได้ใจไปเช่นกัน
เชฟเจ นพรุจ อุดกันทา (Chef Jay Nopparut Audkanta) Executive Sous Chef โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท เลือกทำเมนู ก้อยปลาคัมปาจิ (Kanpachi Fish Tartare) เลือกปลาคัมปาจิ จากสหกรณ์ประมงทารุมิซึ คาโกชิม่า มาทำเพราะคนญี่ปุ่นเค้าลงความเห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าปลาคัมปาจิของที่นี่มีรสชาติดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยวิธีการเลี้ยงด้วยน้ำที่เย็น สะอาด และให้อาหารที่ดี เลยทำให้เนื้อปลามีรสชาติดี
สำหรับเมนูวันนี้ที่เชฟเลือกทำเพราะเป็นเมนูที่ไม่ซับซ้อนมาก ทำให้คนที่รับประทานเข้าใจง่าย มีการนำความเป็นญี่ปุ่นมาผสมกับความเป็นไทย และใส่ความเป็นยุโรปที่สำคัญเชฟเห็นกระบวนการเลี้ยงและการฆ่าปลารีดเลือดออก ทำลายระบบประสาทเพื่อให้ปลามีความสดไม่คาวจึงมั่นใจว่าจะเป็นเมนูที่โชว์เนื้อสัมผัส (Texture) ได้ดีเยี่ยม…คาดว่าถ้าใครได้ลองต้องชอบแน่นอน
เมื่อมาร้านอัคนีก็ต้องได้ทานอาหารไทย ซึ่งต้องไทยแบบไม่ธรรมดาด้วยชื่อชั้นระดับเชฟมากประสบการณ์จากร้านมิชลินสตาร์ เชฟธีราภรณ์ บริกัปปกุล ปัจจุบันเป็นหัวหน้าครัวประจำร้านอัคนี เลือกรังสรรค์เมนู ข้าวซอยเนื้อเส้นมันหวาน (Khao Soi with Sweet Potato Noodles) เชฟเล่าให้ฟังว่า ที่เลือกเมนูนี้เพราะข้าวซอยเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เลยอยากพรีเซ็นต์ที่ร้านด้วย ประกอบกับมันหวานเป็นวัตถุดิบที่ส่วนมากจะนิยมนำมาทำเป็นขนม ก็เลยอยากฉีกแนวนำมาทำเป็นเมนูของคาว เลือกเป็นข้าวซอยเส้นมันหวาน โดยส่วนผสมของเส้นมีมันหวามผสมกับแป้ง ไข่ เท่านั้นไม่ต้องใส่น้ำตาล คนทานจะได้รับรสชาติของมันหวานที่แท้จริง ซึ่งก็เป็นตามที่เชฟวางไว้เพราะตัวเองได้ให้น้องเอาเฉพาะเส้นมาให้ลองชิมด้วย เพื่อจะได้เทียบกับข้าวซอยที่เสิร์ฟมาพร้อมน้ำ
สรุปว่าเมนูนี้รสชาติกลมกล่อมหวานจากเส้นข้าวซอยมันหวานที่ถูกดึงรสชาติเพิ่มขึ้นจากกะทิสดที่เคี่ยวได้ที่กับเครื่องแกงข้าวซอย เป็นการยืนยันได้ว่าอาหารคุณภาพต้องเริ่มต้นจากวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียม วันนี้ประสบการณ์อาหารจานใหม่ของเรารับรู้ได้ว่ามันหวานไม่จำกัดแค่การนำมาทำเป็นของหวานเท่านั้น แต่ยังสามารถดัดแปลงเป็นเมนูอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ส่วนอีกเมนูเป็น กะหรี่ปั๊บไส้มันหวาน (Sweet Potato Curry Puff) เป็นอาหารทานเล่นของไทยเป็นของว่าง เหมาะกับการทานคู่กับชา เลยกลายเป็นกะหรี่พัฟไส้มันหวานที่ใส่เทคนิคการทำแบบแป้งบางไส้จัดเต็มแน่นมาก ตอกย้ำให้เห็นว่า ยิ่งวัตถุดิบตั้งต้นมีคุณภาพดีก็ยิ่งทำให้อาหารที่ออกมามีอรรถรสในการรับประทานมากขึ้นกว่าปกติ
ปิดท้ายด้วยเมนูรังสรรค์จาก เชฟกัลญา งามขำ Menu development chef in Thailand and Japan และอาจารย์สอนเทคนิคทำอาหารที่แคนาดา สำหรับเมนูวันนี้คือ “รอสตินี่ ลูกพลับอังโปะกับชีส” (Goat Cheese Persimmon Crostini) ซึ่งเชฟใช้วัตถุดิบ 2 ตัว คือ ลูกพลับอังโปะ (Anpo Persimmon) โดยการใช้ขนมปังมาทากับชีสและโปะด้วยลูกพลับอังโปะ ได้รสชาติที่จุ๊ยซี่ และเข้ากันได้ดีมาก ส่วนอีกเมนู “สลัดมะเขือเทศรวมกับคังโกะโระโมจิ” (Mixed Tomato with Kankoro Mochi Salad) ซึ่งเชฟให้เหตุผลว่าโมจิมัน หรือคังกาโระโมจิ คนไทยคงไม่ค่อยรู้จัก เท็กซ์เจอร์ของเค้าจะเหมือนแป้งโมจิ ซึ่งเป็นเมนูที่ค่อนข้างยาก
ครั้งแรกคิดว่าจะทำเป็นอาหารคาว หรือหวานดี สุดท้ายเลือกนำมาทำเป็นเมนูดีพฟรายด์ชิกเก้น ใส่สลัดลงไป พอชิมแล้วก็เข้ากันดี เลยทำเป็นเมนูนี้ออกมาก เป็นเมนูทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ เหมาะสำหรับสายมังสวิรัติ สายวีแกน ที่ชอบเฮลท์ตี้ ซึ่งชิมแล้วก็ไม่ผิดหวังให้ความรู้สึกไม่หนักท้องจนเกินไป ทานไปจิบชาไป…ทำให้มื้อนี้ได้ความรู้สึกอิ่มใจทั้งความอร่อยและเติมอาหารสมองการเข้าถึงวัตถุดิบจากแหล่งผลิตที่ดีและกระบวนการผลิตที่รักษาความสดทำให้มั่นใจในคุณภาพอาหารแต่ละเมนูที่เชฟรังสรรค์มาแนะนำในวันนี้เป็นการเปิดประสบการณ์อาหารจานใหม่จากวัตถุดิบญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมที่ Wafood ใส่ใจให้คนไทยได้ทานของดีกันค่ะ
สำหรับผู้สนใจสามารถสั่งซื้อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ รชิตา เครือสาริจ (แนต) ฝ่ายขายและการตลาด Rachita Kruesarich (Nat) Sales and Marketing.โทร. 062-164-5626 อีเมล์ rachita@sonoriku.co.th หรือ info@sonoriku.co.th และติดตามข่าวสารกิจกรรมได้ที่ Facebook & Instagram: sonoriku.wafood
บรรณาธิการ นิตยสาร Thailand Restaurant News สื่อสิ่งพิมพ์ที่อยู่คู่กับธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม (HoReCa) เป็นเวลายาวนานกว่า 18 ปี และเป็นผู้ดำเนินรายการวิทยุด้านธุรกิจ