Chef Thomas Smith ความสำเร็จที่ไม่ได้มาชั่วข้ามคืน

Chef Thomas Smith ได้แบ่งปันประสบการณ์ในห้วงเวลาที่ผ่านมาซึ่งเต็มไปด้วยพลังบวก เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ทำงานในสายอาชีพเชฟ ได้ปรับปรุงและพัฒนาตนเองไปสู่ความสำเร็จ

วันนี้ทีมงานได้นัดกับเชฟ โธมัส สมิธ ณ ห้องอาหาร Park Society restaurant ชั้น 9 โรงแรมโซ โซฟิเทล เพื่อพูดคุยกับเชฟเกี่ยวกับประสบการณ์ที่สั่งสมบนเส้นทางสายอาชีพยาวนานถึง 23 ปี

Park Society restaurant

เชฟโธมัส เกิดและเติบโตในประเทศอังกฤษ ในวัยเด็กเชฟได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ได้รับการบ่มเพาะจากคุณแม่ในการคัดเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ปลอดสารมาปรุงอาหาร เมื่ออายุ 12 ปี เชฟมีความตั้งใจจะเลือกประกอบอาชีพเป็นนักผจญเพลิง แต่คุณแม่ให้แนวคิดว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเชฟเข้าครัวช่วยคุณแม่เตรียมอาหารมาตลอดแล้วจะหันหลังให้กับความรู้และประสบการณ์ในการทำอาหารได้อย่างไร นั่นคือแรงผลักดันให้เชฟตัดสินใจเข้าเรียนในด้านอาหาร

เชฟ โธมัส สมิธ

การทำอาหารในแต่ละเมนูจะใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบจากท้องถิ่น ที่สด สะอาด ปลอดสารปนเปื้อน วัตถุดิบผักสดบางรายการเชฟอาจปลูกเอง เช่น โหระพา ผักสวนครัว

เชฟโธมัส สะสมประสบการณ์ด้วยการเข้าทำงานในร้านอาหารหลังเลิกเรียนทุกวัน จนเชฟเรียนจบ จากนั้นเป็นห้วงเวลาแห่งการเดินทางหาประสบการณ์ เชฟได้ร่วมงานกับห้องอาหารระดับดาวมิชลินหลายแห่งรวมถึง Savoy Hotel ในกรุงลอนดอน Les Saveurs ในกรุงตูลูส รวมถึงโรงแรมหกดาวในดูไบ และโรงแรมในประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น นอกจากนี้ยังเคยร่วมงานกับเชฟชื่อดังหลายท่าน อาทิ เชฟไฮนส์ วินเคลอร์ เชฟมิเชล โรส์ เชฟแกรี่ โร้ดส์ เ ชฟเจมส์ มาร์ติน หลังจากนั้นก็ตัดสินใจมาทำงานโรงแรมในภูเก็ตนานถึง 9 ปี ก่อนที่จะมาร่วมงานกับโรงแรมโซ โซฟิเทล ในตำแหน่ง Executive Chef รวมถึงนำประสบการณ์มาถ่ายทอดการทำอาหารด้วยการจัด Cooking Class ให้กับผู้ที่สนใจทั้งอาหารคาว หวาน อาหารไทย อาหารนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมนูช็อคโกแลต ที่เชฟเลือกวัตถุดิบจากต่างประเทศ และจากภาคเหนือของไทย

กุ้งล็อบสเตอร์
มะม่วง
ปูอลาสก้า

สำหรับอาหาร 3 เมนูที่เชฟจัดมาในวันนี้ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมที่สุดในห้องอาหารนี้ โดยเชฟนำจุดเด่นวัตถุดิบของไทยคือ มะพร้าว มะม่วงสุก รวมถึงกุ้ง lobster และเนื้อปูอลาสก้า มาเป็นส่วนผสมหลัก เชฟเล่าให้ฟังว่า การทำอาหารในแต่ละเมนูจะใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบจากท้องถิ่น ที่สด สะอาด ปลอดสารปนเปื้อน วัตถุดิบผักสดบางรายการเชฟอาจปลูกเอง เช่น โหระพา ผักสวนครัว ที่ใช้ตกแต่งหรือเป็นส่วนผสมเพื่อดึงกลิ่นอาหาร เช่น โรสแมรี่ เป็นต้น ทำให้อาหารในแต่ละเมนูของเชฟมีเรื่องเล่าและมีเสน่ห์ การเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมีข้อดีตรงที่เราจะได้ของสด เมื่อนำมาปรุงกับกลุ่มโปรตีนจากเนื้อสัตว์นำเข้าอย่างปูอลาสก้า พร้อมใส่เทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศสผสมผสาน จะทำให้อาหารในแต่ละจานมีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ของคนทานและนักชิมที่คาดเดาไม่ถึงกับหน้าตาและรสชาติอาหารที่ได้รับการรังสรรค์มาในรูปแบบ World Class ทำให้เกิดความประทับใจจนต้อง WOW

ผู้ที่จะก้าวเข้าสู่สายอาชีพเชฟต้องมีใจรักที่จะบริการ เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ มีความคิดสร้างสรรค์และพร้อมที่จะทำงานหนัก อีกทั้งมีความอดทนในการทำงานเพราะความสำเร็จไม่ได้มาในช่วงข้ามคืน

เชฟโธมัส สมิธ