สุทธินนท์ พันธนาม เพราะลูกค้าคือเพื่อนที่ดีที่สุด

การถูกตีกรอบสำหรับหลายๆ คนคงไม่ใช่เรื่องที่ดีมากนัก แต่ไม่ใช่กับ คุณเจมส์มี่ สุทธินนท์ พันธนาม บาร์เทนเดอร์หนุ่มอนาคตไกล ที่เชื่อว่าการถูกตีกรอบเป็นอะไรที่ดีกับตัวเขาในการที่จะเดินบนเส้นทางสายอาชีพบาร์เทนเดอร์

คุณเจมส์มี่เล่าจุดเริ่มต้นว่าผมไม่เคยคิดเรื่องจุดมุ่งหมายในชีวิตตัวเอง จนมีโอกาสทำงานพาร์ทไทม์เป็นผู้ช่วยอยู่หลังบาร์ของโรงแรมเล็กๆ ที่บ้านเกิดบนเกาะพะงัน ทำให้เกิดความประทับใจเพราะเห็นว่าบาร์เทนเดอร์เป็นอาชีพที่ได้พูดคุยพบปะกับผู้คนมากมายและได้เห็นการทำงานหลังบาร์ว่าเป็นอย่างไร จึงเก็บเอาความรู้สึกนั้นมาเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี แต่ด้วยความที่อายุยังน้อยความมุ่งมั่นนี้จึงถูกพับเก็บไปเกือบ 2 ปี กระทั่งรู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องเติบโตแล้วจึงเดินกลับมายังเส้นทางสายบาร์อีกครั้ง โดยเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพบาร์เทนเดอร์และค็อกเทลต่างๆ อย่างจริงจัง กระทั่งได้ทำงานในตำแหน่งบาร์เทนเดอร์ของ Renaissance Koh Samui Resort & Spa ซึ่งก็เป็นโรงเรียนชีวิตที่บ่มเพาะประสบการณ์และความอดทน นอกจากนั้นคุณเจมส์มี่ยังตัดสินใจลงสนามแข่งขันเป็นครั้งแรกเพื่อทดสอบฝีมือของตัวเองบนบนเวที World Class Thailand 2017 ซึ่งเป็นเวทีระดับประเทศที่ปูพรมไปสู่การแข่งขันในระดับสากล และโลกกว้างในสายอาชีพถูกเปิดออกหลังจากการแข่งขันจบลง และทำให้หนุ่มคนนี้มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อเปิดประสบการณ์ที่มากกว่าให้กับตัวเอง

และถ้าพูดถึงเสน่ห์ของบาร์เทนเดอร์ คุณเจมส์มี่มองว่าเป็นอาชีพที่มีความเป็นกันเองกับลูกค้า บาร์เทนเดอร์ไม่ใช่ผู้บริการ ลูกค้าไม่ใช่ผู้ใช้บริการ แต่ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หลายครั้งการเข้าไปนั่งหน้าบาร์มักให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งอยู่บ้านเพื่อน ได้ปล่อยวางความเหนื่อยล้า พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ กัน และหากให้หนุ่มคนนี้เปรียบตัวเองเป็นค็อกเทล แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น Negroni คลาสสิกค็อกเทลที่มีความขมนำและซ่อนความหวานสดชื่นหลังได้จิบ ซึ่งเป็นค็อกเทลที่คล้ายคลึงกับบุคลิกมากที่สุด แต่สำหรับดริ้งที่ภูมิใจนำเสนอคุณเจมส์มี่ขอหยิบยก The Last River ค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่ถูกโชว์บนเวที World Class ที่ใช้วอดก้าหรือน้ำอมฤตแห่งชีวิตเป็นเบส เมื่อนำมาผสานกับแนวคิดที่ว่าโลกเราทุกวันนี้มันแย่ลง ค็อกเทลตัวนี้จึงสะท้อนให้ผู้ที่ลิ้มลองหวนกลับไปคิดถึงการดูแลโลกเพื่อให้มีวันพรุ่งนี้ตลอดไป ส่วนค็อกเทลอีกตัวที่อยากนำเสนอมีชื่อว่า Dark Day เป็น Future Cocktail ของที่ร้านซึ่งบอกเล่าไลฟ์สไตล์คนกลางคืนอย่างบาร์เทนเดอร์แซมสัมผัสหอมหวานสดชื่นได้เป็นอย่างดี

 “การที่เราถูกตีกรอบมันเป็นอะไรที่ดีสำหรับเรา เพราะถ้าเราไม่แน่นประสบการณ์ที่อยู่ในกรอบแล้ว เมื่อเราออกไปนอกกรอบ เราจะกลายเป็นกบในกะลาที่ยังไร้ประสบการณ์ เพราะนอกกะลามันกว้างมีอะไรที่ยังไม่รู้อีกมากมาย ซึ่งทุกอย่างมันต้องเริ่มจากศูนย์และค่อยๆ เป็นลำดับไป”

#FindTheLockerRoom