White Day Patisserie เสิร์ฟของขวัญผ่านจานขนม

Editorial 09/06/2016

ผู้เข้าชม 6,281

แรงบันดาลใจจากวันไวท์เดย์ เทศกาลแห่งความรักของชาวญี่ปุ่นซึ่งทุกวันที่ 14 มีนาคมของทุกปีจะเป็นวันที่ผู้ชายมอบของขวัญสีขาวตอบความรู้สึกให้กับผู้หญิงที่ชอบ ผสมกับความหลงใหลในรสชาติของเค้กและขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นของกลุ่มเพื่อนสนิท จนกลายเป็นแรงผลักดันสร้างคาเฟ่ ‘White Day Patisserie’ แห่งนี้ขึ้นมา

ด้วยคำขวัญของร้านที่ว่า ‘Gifts are always sweet’ จึงทำให้ตัวขนมมีหน้าตาเหมือนกับของขวัญให้คุณสามารถนำไปฝากได้เปรียบเป็นตัวแทนของความรู้สึกที่อยากจะส่งต่อ โดยเค้กส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อสปองจ์ให้สัมผัสนุ่มเบาและหวานน้อย ทานง่ายเหมาะกับทุกวัย อีกทั้งการคัดสรรคุณภาพของวัตถุดิบ ทางร้านใช้ระดับพรีเมียม เพราะเชื่อว่ารสชาติของขนมที่ดีจะมาจากวัตถุดิบที่ดี

ตัวร้านตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์ ใช้กำแพงอิฐ เฟอร์นิเจอร์ไม้และสีเอิร์ธโทนเข้ามาช่วยทำให้ร้านดูอบอุ่น โดยสาขานี้จำลองร้านให้คล้ายกับโรงงานผลิตของขวัญ มีกล่องและท่อประดับอยู่ซึ่งทางร้านให้ความหมายว่ากำลังดูดของขวัญมาจากที่แห่งหนึ่งส่งต่อมาถึงที่ร้าน และเพื่อสื่อถึงการส่งต่อความรักไปยังผู้อื่น ทางร้านยังมีมุมเล็กๆให้ลูกค้าประดิษฐ์การ์ดอวยพรโดยขนอุปกรณ์มาให้ใช้อย่างครบครัน ซึ่งทุกคนสามารถมีความสุขกับขนมและใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำงานประดิษฐ์ไปพร้อมๆ กัน

ความใส่ใจในคุณภาพของรสชาติที่เชฟประจำร้านจบมาจากญี่ปุ่นโดยตรงพร้อมยกขบวนเติมความหวานด้วยเมนูแรกอย่าง Bread Pudding ซิกเนเจอร์จากทางร้านเป็นขนมปังหั่นลูกเต๋าขนาดพอดีคำ ให้รสสัมผัสกรอบนุ่ม เสิร์ฟคู่กับซอสและไอศกรีมรสวานิลลา Snow Berry Mousse ไวท์ช็อกโกแลตมูสชีสซ่อนสตรอเบอร์รี่เยลลี่รสเปรี้ยวด้านในช่วยตัดหวานได้ลงตัว

แต่สำหรับคนที่ชอบชาเขียวต้องลอง Green Tea Opera เค้กสปองจ์ชาเขียวสลับชั้นมูสชาเขียวและมูสดาร์กช็อกโกแลต

และเมนู Strawberry Dome โดมช็อกโกแลตชิ้นโตที่เพียงราดซอสช็อกโกแลตลงไปก็จะพบกับเครปสตรอเบอร์รี่มูส สอดไส้สตรอเบอร์รี่สด สตรอเบอร์รี่เยลลี่ วานิลลาครัมเบิ้ลและไอศกรีมตามชอบ ให้รสชาติที่หลากหลายเหมาะกับการแท็กทีมมาทานด้วยกันที่สุด ก่อนจะปิดด้วยเครื่องดื่มม็อกเทลอย่าง St. Valentines ชาดำคุณภาพดีจาก TWG ผสมกับไซรัปสตรอเบอร์รี่เข้มข้นมาช่วยดับกระหายได้อย่างสดชื่น