Char Bangkok สัมผัสแห่งความประทับใจสไตล์รูฟท็อปที่ โฮเต็ล อินดิโก้ เซียงไฮ้

ผู้เข้าชม 2,471

หลังจากที่ห้องอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่งชื่อดังอย่าง Char ซึ่งตั้งอยู่บนรูฟท็อปของโรงแรม โฮเต็ล อินดิโก้ เซี่ยงไฮ้ สร้างความสมบูรณ์แบบให้กับกินดื่มอย่างมีศิลปะมาอย่างต่อเนื่อง ได้ลัดฟ้ามาส่งต่อความประทับใจให้เหล่าฟู้ดดี้ในเมืองไทยสัมผัสกับประสบการณ์เหนือระดับครั้งใหม่ภายใต้มาตรฐานเดียวกันที่ CHAR Bangkok

CHAR Bangkok ยังคงเสน่ห์ของทัศนียภาพมุมสูงในฐานะร้านอาหารรูฟท็อปแห่งแรกบนถนนวิทยุ ที่บรรเลงความงดงามผ่านแสงสีซึ่งสับเปลี่ยนไปตามเข็มนาฬิกา จากชั้น 25 และชั้นรูฟท็อปของโรงแรม โฮเต็ล อินดิโก้ กรุงเทพฯ ที่โอบล้อมด้วยบรรยากาศสบายๆ ของงานดีไซน์ที่รู้สึกได้ถึงความเป็นแคชชวลไดนิ่งผสานกลิ่นอายบิสโทร เติมแต่งด้วยรายละเอียดเก๋ๆ ที่สื่อถึงเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชนท้องถิ่นในละแวกเข้ามารวมไว้ได้อย่างโดดเด่น ภายในร้านถูกแบ่งเป็น 3 โซนหลักๆ ได้แก่ CHAR Private ที่รองรับแขกคนพิเศษได้สูงสุดถึง 24 ที่นั่งได้อย่างเหนือระดับและเป็นส่วนตัว

หรือดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งสีสันพร้อมจิบซิกเนเจอร์ค็อกเทลแก้วโปรดที่กลั่นกรองจากแรงบันดาลใจของมิกโซโลจิสต์คนดังสัญชาติอิตาลี Francesco Moretti ที่ CHAR Rooftop Bar

มุมสบายๆ กับค็อกเทลดีๆ จากมือของมิกโซโลจิสต์ขั้นเทพ

โซนไฮไลท์อย่าง CHAR Restaurant ที่พร้อมเสิร์ฟพรีเมียมเมนูหลากหลายในคอนเซ็ปต์ Contemporary Grill จากฝีมือการครีเอทของ Chef de Cuisine มากฝีมือชาวฝรั่งเศส Lionel Vinatier ที่ผสมผสานการคัดสรรวัตถุดิบดีจากทั่วโลกเข้ากับเทคนิคการปรุงชั้นเซียน เพื่อยกระดับประสบการณ์แห่งมื้ออาหารให้กับลูกค้า นำโดยเมนูรสเลิศที่เชฟเลือกมาแพริ่งคู่กับเครื่องดื่มตัวพิเศษที่ส่งเสริมอรรถรสให้ลงตัวมากขึ้น

เริ่มต้นด้วย Seared Hokkaido Scallops หอยเชลล์ฮอกไกโดเนื้อเด้งหวานฉ่ำตัดรสด้วยมะม่วงสุก มะเขือเทศ และข้าวเกรียบ ช่วยเสริมเทกเจอร์หลากหลายได้อย่างแปลกใหม่ มาพร้อมซิกเนเจอร์ค็อกเทลรสนุ่มนวลเจือกลิ่นอายครีมมี่ติดปลายลิ้นอย่าง Drunken Boat

ต่อมาเป็น North Pacific Black Cod Steak จานปลาชิ้นใหญ่เนื้อนุ่มแน่นหอมเครื่องเทศ เข้ากันกับ Longridge, The Emily, Chardonnay-Pinot Noir 2015 ไวน์ขาวที่เบลนด์จากองุ่นขาวและองุ่นแดงจากแอฟริกาใต้ สมดุลดี โดดเด่นด้วยอโรม่าฟรุ๊ตตี้

จานหลักสำหรับคนรักเนื้อ Rump Steak Wagyu Marble Score 9 ส่งกลิ่นหอมเคล้าสัมผัสความฉ่ำของเนื้อคุณภาพเต็มคำ เคียงมากับ Truffle Mashed Potatoes และ Creamed Spinach จิบพร้อม Chateau Mont-Thabor Chateauneuf du Pape AOC, Grenache-Syrah-Mourvedre-Cinsault 2011 ไวน์แดงสีเข้มจากโรน มีพลังหอมกลิ่นเบอร์รี่สีเข้ม บอดี้ปานกลางค่อนไปทางหนัก ไปกันได้ดีกับเมนูเนื้อ

ก่อนจบด้วยของหวานจานโปรดรสนุ่มเบาอย่าง Banana Cheese Cake และ Chocoretto Sour ค็อกเทลที่มอบความสดชื่นของสัมผัสเปรี้ยวหวานลงตัว ส่งท้ายเป็นมื้อดินเนอร์ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมไร้ที่ติ