วาฟเฟิลกินกับอะไรก็อร่อยที่ร้าน Hash Me

Editorial 19/08/2016

ผู้เข้าชม 3,798

หอมกรุ่นลงตัวทุกจานกับคอนเซ็ปต์ ‘วาฟเฟิลกินกับอะไรก็อร่อย’ ที่ร้าน Hash Me ทองหล่อ 9 ซึ่งเกิดจากหุ้นส่วน 8 คน ที่มาจากสายงานต่างกัน แต่มีไลฟ์สไตล์คลิกกัน พากันบ่มเพาะความชอบปลุกปั้นให้กลายเป็นร้านสุดเก๋ จนใครที่เข้ามาต้องขอถ่ายรูปติดแท็ก #Hashme บนอินสตาแกรมกันทุกคน

“ร้านแห่งนี้เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเจ้าของทุกคนได้มาแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน และแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ที่ได้พบเจอ ส่งต่อไปยังลูกค้า โดยตัววาฟเฟิลปรับปรุงสูตรกันเป็นเดือนกว่าจะกรอบนอกนุ่มในตามที่เราต้องการ แถมประจวบเหมาะที่ตัววาฟเฟิลเป็นตารางจึงเข้ากับชื่อ Hashme ไปในตัวซึ่งชื่อมีที่มาจากเทรนด์ติด #Hashtag ในอินสตาแกรม” (ยิ้มกว้าง) คุณแอ๋ม หนึ่งในเจ้าของร้านเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้ม

ตัวร้านตั้งอยู่บนดาดฟ้าของ โครงการ 9:53 Art Mall ภายในถูกเนรมิตด้วยฝีมือสถาปนิกชื่อดังจากบริษัท Onion นั่งมุมไหนก็ไม่ซ้ำ ลูกค้าเข้ามากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ โดยใช้โทนสีและวัสดุ 4 แบบคือ สีฟ้าอมเขียว หินอ่อน สีดำ และลายไม้ มาเป็นตัวแบ่งบรรยากาศภายในออกจากกัน สามารถรับได้ 60-70 ที่นั่ง

ด้านการดีไซน์เมนูยังคงความเก๋ไก๋เข้ากับคอนเซ็ปต์เสมอกับการใส่ #Hashtag อารมณ์ความรู้สึกของทุกเมนู ด้วยภาษากวนๆ ยียวนเข้าใจง่าย อ่านแล้วคล้อยตามอยากลองกินทั้งหมด เพราะทางร้านอยากให้ลูกค้าเข้าใจว่าแต่ละเมนูเป็นอย่างไร ทานแล้วจะฟินไหมนั่นเอง เสิร์ฟร้อนพร้อมทานกันที่จานแรก Tuna Cheese Waffle วาฟเฟิลทูน่าชีส วาฟเฟิลหน้าทูน่าชีสเยิ้มยืด หอมอร่อยในปาก ถือว่าจับคู่ของคาวและหวานได้อย่างดี

จานถัดมาอยากให้ลอง German Pork Knuckle ขาหมูเยอรมัน ขาหมูชิ้นอวบกรอบนอกนุ่มใน เป็นอีกร้านที่สามารถปรุงขาหมูเยอรมันได้ดี ทานคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดหรือซอสดำ พร้อมตัดเลี่ยนด้วยขิงและกระเทียมดอง

เมื่อจบคาวแล้วต่อด้วยจานของหวานแบบ Waffle Tower หอคอยวาฟเฟิล ซิกเนเจอร์สุดฮิตเจ้าของร้านขยันขาย ลูกค้าขยันสั่ง โดยมีแรงบันดาลใจมาจากการจัดงานวันเกิดแต่ลืมเอาเค้กมา จึงเกิดไอเดียนำวาฟเฟิลมาต่อเป็นชั้นแทน